สารบัญ
ปัจจุบันการใช้งานเว็บไซต์นั้นมีหลากประเภท จึงไม่แปลกที่ก่อนเริ่มต้นทำจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า “เว็บมีกี่ประเภท?” ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการเลือกใช้งาน ตอบโจทย์จุดประสงค์ชัดเจนและได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ จึงขอรวมประเภทเว็บไซต์ทั้งหมดมาให้ศึกษาอย่างหมดเปลือกเพื่อการตัดสินใจที่ชัดเจนและง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม
เว็บมีกี่ประเภท? แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
1. Blog Website
เว็บไซต์ที่เน้นการนำเสนอเกี่ยวกับบทความ ข่าวเกม หรือเนื้อหาที่เน้นการอ่านเป็นหลัก มีบทความเรียงเป็นลำดับเวลาในการเขียน ทำให้ผู้ใช้งานรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ได้ตามระยะเวลาที่ลง ส่วนมากจะมีการจัดระบบเนื้อหา CMS อยู่ด้วยเบื้องหลัง เป็นระบบที่ผู้ใช้งานออกแบบ จัดการคอนเทนต์ได้ง่ายสุด ปรับเปลี่ยนรูปแบบ Format ต่าง ๆ ได้เลยบน CMS แบบไม่ต้องเขียนโปรแกรมหรือเทคนิคอะไรแต่อย่างใด
2. Personal Website
เว็บไซต์ส่วนบุคคล คือ เว็บไซต์รูปแบบที่เกิดขึ้นในยุค World Wide Web (WWW) ลักษณะเหมือนหนังสือ สมุดไดอารี่ มีการเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านมาแต่ละวัน ใส่ข้อมูลส่วนตัวผู้เขียน หรือมีการถ่ายทอดประสบการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการแสดงผลงานต่าง ๆ ได้เลย ดำเนินการง่าย เข้าถึงง่าย เหมาะกับทุกธุรกิจ
3. Portfolio Website
เว็บมีกี่ประเภท? แน่นอนว่า Portfolio Website ก็เป็นอีกประเภทที่มีด้วยเช่นกัน เน้นการสร้างและเผยแพร่แฟ้มสะสมผลงานของผู้เลือกใช้งานนั้น ๆ บางครั้งหลายคนก็จะเลือกสร้างเว็บไซต์รูปแบบนี้เพื่อเอาไว้สมัครงาน ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายเว็บไซต์ที่ใช้รูปแบบนี้และได้รับความนิยมไม่น้อย
4. E-Commerce Website
เป็นเว็บไซต์ที่เอาไว้เพื่อซื้อขายสินค้าต่าง ๆ ซึ่งหลายคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วในยุคที่จะซื้อขายอะไรก็ผ่านออนไลน์ ซึ่งเว็บไซต์จะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับรูปภาพ ข้อมูลของสินค้า เมื่อลูกค้าสนใจซื้อก็มีการกดจ่ายเงินผ่านเว็บไซต์ได้เองแบบโดยตรง เช่น เว็บขายเฟอร์นิเจอร์ เว็บขายขนม เว็บขายเครื่องครัว ตัวอย่างเว็บไซต์ของแบรนด์ดังต่าง ๆ เช่น Uniqlo, Adidas, pomelo, Under Amour หรือเว็บคนกลางยอดฮิตอย่าง Shopee, Lazada, Amazon เป็นต้น
5. E-Learning Website
เว็บไซต์สมัครสมาชิก เพื่อไขว่คว้าความรู้ ที่มีระบบการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ อีกทั้งยังสามารถชำระเงิน ตัดบัตรเครดิต หรือติดต่อแอดมินเพื่อเข้าเรียน ที่สะดวกในเรื่องของการเรียน ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ ก็เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา ยกตัวอย่างเช่น Kmepepo, Kmekjai
6. Business Website
เป็นอีกเว็บไซต์มาในแนวธุรกิจทื่เน้นด้านการประชาสัมพันธ์ ที่มีการนำเสนอข้อมูลเพื่อลูกค้า เช่น การแนะนำสินค้า / บริการ มีสรุปข้อดี พร้อมจุดเด่นต่าง ๆ ของสินค้า / บริการ ในรูปแบบที่เข้าใจได้แบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก แม้จะเพิ่งเข้ามาใช้งานก็ตาม
7. Information Website
เป็นอีกเว็บไซต์ที่น่าสนใจและควรค่าต่อการนำมาเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ มีการใช้คำจำกัดการค้นค้า หรือเว็บไซต์ที่เน้นข้อมูลแบบเจาะลึก โดยเฉพาะเจาะจง ถ้าให้แนะนำก็เช่น Wikipedia เป็นต้น
8. Non-profit Website
เป็นอีกเว็บไซต์ที่หากถามว่าเว็บมีกี่ประเภท เว็บประเภทนี้ก็จะถูกแนะนำด้วยเช่นกัน จุดประสงค์หลักคือไม่แสวงหาผลกำไร มีไว้เพื่อช่วยเหลือสังคม โดยทั่วไปก็จะเป็นของสมาคม หน่วยงาน ชมรม มูลนิธิ หรือโครงการต่าง ๆ ที่มีเป้าประสงค์เฉพาะทางที่แตกต่างกันออกไป เช่น การรณรงค์ การปกป้องสิทธิมนุษยชน หรือมูลนิธิ องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น
9. Online Forum Website
เน้นสร้างขึ้นสำหรับพูดคุยแชร์เรื่องราวออนไลน์ เพื่อให้ทุก ๆ คนที่สนใจได้มีการปฏิสัมพันธ์หรือพูดคุยกัน โดยสามารถแบ่งย่อยเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ตามที่แต่ละคนสนใจ เช่น เทคโนโลยี เครื่องสำอาง เสื้อผ้าแฟชั่น ทำอาหาร หรืออื่น ๆ
10. Membership Website
เว็บประเภทสุดท้ายต้องมีการสมัครสมาชิกก่อนถึงจะเข้าถึงเนื้อหานั้น ๆ ได้ ยกตัวอย่างเว็บไซต์ที่ใช้รูปแบบนี้ก็จะมี Onlyfans หรือ NETFLIX หรือ Disney+ Hotstar เป็นต้น
หลังจากนี้ก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจและหมดปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับเว็บมีกี่ประเภท และเลือกใช้งานประเภทเว็บไซต์เหล่านี้ได้อย่างเหมาะสมตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ ได้ผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จแบบคาดไม่ถึง ซึ่งการทำเว็บไซต์ที่ดีต้องเริ่มต้นจากผู้เชี่ยวชาญ มีทักษะ และเข้าใจสิ่งที่ต้องการ เพื่อผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจสูงสุด