สารบัญ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคที่การทำธุรกิจก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์แบบเต็มตัว การทำ SEO มีส่วนช่วยให้การทำธุรกิจโดยเฉพาะเว็บไซต์ออนไลน์เติบโตง่ายขึ้นได้จริง ทว่าบางคนอาจยังไม่รู้ว่ามีเครื่องมือ SEO ไหนบ้างที่นิยมนำมาใช้งานช่วยคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากได้ลองนำไปปรับใช้ในธุรกิจเว็บไซต์ของคุณรับประกันช่วยดันยอดขายได้จริง!
แนะนำ 5 เครื่องมือ SEO ยอดนิยม ช่วยดันยอดขายได้จริง
1. Ahrefs
เป็นเครื่องมือ SEO ที่มีฐานข้อมูล Backlink ใหญ่และครอบคลุมทั่วถึง ทำให้ตรวจสอบลิงก์แบบย้อนหลังได้เลยทันทีคุณภาพสูง สามารถวิเคราะห์คำค้นหา Keyword และแนะนำคำค้นที่ใช้คำสั้น ๆ กระชับ น่าสนใจ ครอบคลุม ทั้งยังเป็นฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูลคู่แข่งที่ช่วยให้ผู้ใช้ดูได้ด้วยว่าคู่แข่งกำลังทำอะไร ทำให้ SERP มีอันดับสูง แม้มีค่าใช้จ่ายแต่ก็คุ้มค่าเหมาะกับธุรกิจที่มีขนาดเล็ก หรือผู้ที่เพิ่มเริ่มต้นทำ และเครื่องมือบางอย่างก็มีข้อมูลที่ซับซ้อนมาก อาจต้องใช้ความรู้เชิงลึกเพื่อให้การใช้งานประสิทธิภาพสูงมากขึ้น
2. Google Search Console
เป็นเครื่องมือฟรีจากแพลตฟอร์ม Google จึงมีความเชื่อถือในการวิเคราะห์ และติดตามเว็บไซต์ได้ดี ช่วยเรื่องการตรวจสอบการทำงานของเว็บไซต์ อย่างการตรวจสอบปัญหารวบรวมข้อมูล หรือการทำ Mobile-Friendly ทั้งนี้ ยังสามารถดูข้อมูลการคลิกเข้าเว็บไซต์ การค้นหา รวมถึงปัญหา SEO ของเว็บไซต์นั้น ๆ ได้อย่างเจาะลึก ส่วนจุดด้อยคือด้านการใช้งานหากยังไม่มีความรู้ทางเทคนิคก็อาจเกิดความสงสัยเพราะ ระบบซับซ้อน และข้อมูลบางส่วนมีการจำกัดในระยะเวลาแสดงผลให้เรา 16 เดือนเท่านั้น
3. เครื่องมือ Screaming Frog SEO Spider
เป็น เครื่องมือ SEO รองรับการตรวจสอบโครงสร้างเว็บไซต์ขนาดใหญ่ได้ การค้นหาปัญหา SEO ทางเทคนิคจึงสะดวกสบาย ทั้งเป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์โครงสร้างเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ละเอียดแบบสุด ๆ อย่างการตรวจสอบ Broken Links, Meta Tags, Redirects และอื่น ๆ แต่จุดด้อยก็มีอยู่ด้วย คือ ในส่วนการใช้งาน Screaming Frog ยาก ต้องมีเทคนิค มีความรู้พื้นฐานของโครงสร้างเว็บไซต์ด้วย และส่วนฟรีจำกัดการใช้งาน 500 URLs ทำให้เว็บไซต์ขนาดใหญ่ใช้งานไม่ได้เพราะไม่เพียงพอ
4. เครื่องมือ SEMrush
เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยวิเคราะห์การติดตามจัดอันดับเว็บ การวิเคราะห์เว็บ จากคำค้นหาหลาย ๆ ประเทศ มีฟีเจอร์ที่ครอบคลุม PPC, SEO หรือการทำคอนเทนต์ Social Media และ Content Marketing ที่สำคัญมีฟีเจอร์การทำ Keyword Research ประสิทธิภาพสูง ช่วยติดตามคำค้นหาได้เลยตามต้องการ ทั้งนี้มีฟีเจอร์ทำ Keyword Research คุณภาพสูง ทำให้การติดตามคำค้นหาที่ต้องการราบรื่นมากขึ้น ส่วนจุดด้อยก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงหากต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูง และการเรียนรู้ช่วงแรก ๆ ในการใช้งานอาจต้องใช้เวลา เพราะมีเครื่องมือที่ซับซ้อน และฟีเจอร์เยอะมาก
5. เครื่องมือ Moz Pro
สุดท้ายเป็นเครื่องมือ SEO ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยจะเป็นฟีเจอร์ที่ใช้ตรวจสอบ SEO บนเว็บไซต์ของคุณได้ ทั้งการวิเคราะห์คำค้นหา การติดตาม Backlink หรือการวิเคราะห์การทำงานของเว็บไซต์ โดยมีคะแนน Page Authority (PA) และ Domain Authority (DA) ที่เป็นมาตรฐานและได้รับความนิยมใช้เพื่อวัดว่าเว็บไซต์มีความแข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน ทั้งยังมีฟีเจอร์ที่เป็น Extension บน Browser อย่าง MozBar ที่ทำให้หน้าเว็บได้รับการวิเคราะห์ง่ายมากขึ้น ส่วนจุดด้อยคือการวิเคราะห์ Backlink ยังครอบคลุมไม่ละเอียดเท่า Ahrefs และฟีเจอร์บางอย่างก็ยังไม่ครอบคลุมเท่า Ahrefs หรือ SEMrush
จากข้อมูลที่แนะนำไปเหล่านี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทันทีที่รู้จักเครื่องมือ SEO แล้วจะเลือกใช้บริการได้อย่างมั่นใจและตอบโจทย์มากที่สุด เพื่อเว็บไซต์ที่ได้รับการเข้าถึงเยอะมากขึ้น ส่งผลต่อธุรกิจเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ หรือถ้ายังไม่ชัวร์ ไม่อยากเสียเวลาศึกษา การมองหาผู้เชี่ยวชาญแบบเฉพาะทางก็เป็นอีกคำแนะนำที่ตอบโจทย์มากทีเดียว